ดเวน เหว็ด (การ์ด : ไมอามี ฮีท)
(การ์ด : ไมอามี ฮีท)

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : ดเวน เหว็ด
วันเกิด : 17 มกราคม 1982 (อายุ 26 ปี)
สัญชาติ : อเมริกัน
ส่วนสูง : 6 ฟุต 4 นิ้ว (1.93 เมตร)
น้ำหนัก : 216 ปอนด์ (98 กิโลกรัม)
ลีกอาชีพ : เอ็นบีเอ
ทีมปัจจุบัน : ไมอามี่ ฮีท
เบอร์เสื้อ : 3
เล่นอาชีพ : ปี 2003-ปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมา
ดเวน เหว็ด (Dwyane Wade) หรือชื่อเต็ม ดเวน ไทโรน เหว็ด จูเนียร์ (Dwyane Tyrone Wade, Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1982 เป็นนักบาสเกตบอลชาวอเมริกันชื่อดังที่เล่นในลีกเอ็นบีเอ (NBA) มีฉายาว่า แฟลช (Flash) และ ดี-เหว็ด (D-Wade) ปัจจุบันเล่นอาชีพอยู่กับทีม ไมอามี ฮีท โดยเขาเคยได้รับนักกีฬายอดเยี่ยม จาก Sports Illustrated ซึ่งเป็นนิยสารกีฬาชื่อดังของสหรัฐฯ และ ผู้เล่นทรงคุณค่าของเอ็นบีเอรอบไฟนอล ในปี 2006 (NBA Finals MVP) อีกด้วย
เหว็ด ก้าวเข้าสู่วงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอจากการดราฟฟ์เป็นอันดับ 5 ในปี 2003 และเขาก็สามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมาที่สุดคนหนึ่งในศึกยัดห่วงเอ็นบีเอ็นทุกวันนี้ โดยเขามีชื่อติดทีมดาวรุ่งประจำฤดูกาลในซีซั่นแรกของตัวเอง รวมถึงติดทีม ออล-สตาร์ ในปีถัดมาอีกด้วย นอกจากนี้ เหว็ด ยังมีส่วนสำคัญที่นำทีม ไมอามี ฮีท คว้าแชมป์เอ็นบีเอ ได้สำเร็จในประวัติศาสตร์ หลังจากเล่นให้กับทีมเป็นฤดูกาลที่ 3 (ปี 2006) ด้วยการเอาชนะ ดัลลัส มาเวอริคส์ มาได้ในเกมรอบชิงชนะเลิศ
วัยเด็ก
ดเวน เหว็ด เกิดทางตอนใต้ของเมืองชิคาโก้ มีพ่อชื่อ ดเวน เหว็ด ซีเนียร์ (Dwyane Wade, Sr.) กับแม่ชื่อ โจลินดา เหว็ด (Jolinda Wade) และเขามีพี่สาวอีกคนชื่อว่า เทลกิล ซึ่งเขามักพูดเสมอว่ามีพี่สาวของเขาคือคนที่พาเขาไปในทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ พ่อแม่ของเหว็ดหย่าร้างกัน โดย ดเวน อาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงเขาในเมือง รอบบินส์ (มลรัฐอิลลินอยส์)
ดเวน เหว็ด เกิดทางตอนใต้ของเมืองชิคาโก้ มีพ่อชื่อ ดเวน เหว็ด ซีเนียร์ (Dwyane Wade, Sr.) กับแม่ชื่อ โจลินดา เหว็ด (Jolinda Wade) และเขามีพี่สาวอีกคนชื่อว่า เทลกิล ซึ่งเขามักพูดเสมอว่ามีพี่สาวของเขาคือคนที่พาเขาไปในทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ พ่อแม่ของเหว็ดหย่าร้างกัน โดย ดเวน อาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงเขาในเมือง รอบบินส์ (มลรัฐอิลลินอยส์)
ระดับมหาวิทยาลัย
เหว็ด เล่นให้กับมหาวิทยาลัยมาร์เคว็ตในเมืองมิววอร์คกี ปีแรกเหว็ดไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากติดปัญหาด้านการเรียน เมื่อเขามีสิทธิ์ลงเล่นในปีสอง (ปี ค.ศ. 2001-2002) เขาเป็นคนทำคะแนนสูงสุดในทีม ได้คะแนนเฉลี่ย 17.8 แต้มต่อเกม และยังทำได้ 6.6 รีบาวด์และ 3.4 แอสซิสต์ต่อเกม ให้ทีมมีสถิติชนะ 26 แพ้ 7 ซึ่งดีที่สุดนับจากฤดูกาล 1993-94 ต่อมาในปี 2003 เหว็ดเป็นคนทำคะแนนสูงสุดอีกครั้งที่ 21.5 คะแนนต่อเกม มาร์เคว็ตได้เป็นแชมในสาย Conference USA เป็นครั้งแรกด้วยสถิติชนะ 27 แพ้ 6 และเข้าไปเล่นถึงรอบสี่ทีมสุดท้ายในการแข่งชิงแชมป์ระดับมหาวิทยาลัยของเอ็นซีดับเบิลเอ
ผลงานที่น่าจดจำที่สุดในการแข่งชิงแชมป์ของเหว็ต น่าจะเป็นตอนแข่งชิงในรอบ มิดเวสต์รีเจียนนอลไฟนอล ตอนที่แข่งกับมหาวิทยาลัยเคนทักกีซึ่งถือเป็นทีมในอันดับหนึ่งในสาย เหว็ดทำทริปเปิล-ดับเบิล ได้ 29 คะแนน 11 รีบาวด์ 11 แอสซิสต์ การเล่นที่เด่นของเหว็ดทำให้เขาตัดสินใจเข้าดราฟตัวผู้เล่นเอ็นบีเอในปีนั้น
ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 มาร์เคว็ต ประกาศจะรีไทร์หมายเลขเสื้อของเหว็ดตอนพักครึ่งของเกมระหว่างมาร์เคว็ตกับมหาวิทยาลัยโพรวิเดนซ์
อาชีพการเล่นเอ็นบีเอ
2003-2004
เหว็ด ถูกดราฟเป็นอันดับที่ห้าในการดราฟของเอ็นบีเอในปี 2003 โดยไมอามี ฮีท และกลายเป็นดาวในทีมทันที เขาทำได้ 16 คะแนน 4 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ในปีแรก และยังทำผลงานได้ดีในรอบเพลยออฟโดยเฉพาะตอนที่เจอกับอินเดียน่า เพเซอรส์ในรอบก่อนชิงแชมป์คอนเฟอเรนซ์ตะวันออก แต่ว่าในปีนั้นผู้เล่นหน้าใหม่อีกสองคนคือ คาเมโล แอนโทนี่ และ เลอบรอน เจมส์ กลับที่สนใจของสื่อมวลชนมากกว่า จากความสำเร็จในปีแรกของ เหว็ด เขาก็ได้มีชื่ออยู่ในทีมดาวรุ่งเอ็นบีเอ ประจำปี 2004 รวมถึงได้รับโอกาสในการคัดตัวเป็นผู้เล่นทีมชาติสหรัฐอีกด้วย
2006-2007
เหว็ดได้รับเลือกเล่นในเกมรวมดาราเป็นปีที่สามติดต่อกัน แต่ทีมฮีทก็เริ่มต้นฤดูกาลโดยชนะเพียง 20 แต่แพ้ถึง 25 เกม แต่หลังจากที่แชคหายจากการบาดเจ็บ และโค้ชแพท ไรเลย์ กลับมาหลังผ่าตัดสะโพกและหัวเข่า ฮีทมีท่าทีว่าจะทำผลงานในครึ่งหลังได้ดี แต่ในเกมระหว่างฮีทกับฮิวส์ตัน รอกเก็ตส์เมื่อ 21 กุมภาพันธ์
เหว็ดหัวไหล่ซ้ายเคลื่อนระหว่างการพยายามขโมยลูกจาก เชน แบททิเยร์ และต้องพาออกนอกสนามด้วยรถเข็น เหว็ดต้องตัดสินใจระหว่างการพักฟื้นและกลับมาเล่นใหม่ช่วงปลายฤดูกาล หรือผ่าตัดและรอจนฤดูกาลหน้ากว่าจะเล่นได้อีก เหว็ดประกาศเมื่อ 5 มีนาคมว่าจะเลื่อนการผ่าตัดออกไปและพักเพื่อพยายามกลับมาเล่นให้ทีมให้ทันช่วงเพลย์ออฟ
เหว็ดกลับมาเล่นอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน หลังจากพักไป 23 เกม ในเกมแรกที่กลับมา เหว็ดแข่งกับชาล็อต บ็อบแคทส์ทำได้ 12 คะแนน 8 แอสซิสต์ แต่แพ้ต่อเวลาที่คะแนน 103 ต่อ 111 เหว็ดจบฤดูกาลด้วยสถิติเฉลี่ย 27.4 แต้ม 7.5 แอสซิสต์ 4.7 รีบาวด์ และ 2.1 สตีล ต่อเกม
ในรอบเพลย์ออฟ เหว็ด เล่นได้เฉลี่ย 23.5 แต้ม 6.3 แอสซิสต์ 4.8 รีบาวด์ต่อเกม แต่ฮีทก็ตกรอบแรกโดยแพ้ ชิคาโก บูลล์ สี่เกมรวด โดยหลงจากเสร็จสิ้นเกมเพลย์ออฟดังกล่าว เหว็ดได้เข้ารับการผ่าตัดไหล่ซ้ายและเข่าซ้ายและจะต้องพักช่วงเดือนแรกของฤดูกาล 2007-08 ซึ่งหมายความ เขาจะต้องพลาดลงช่วยทีมสหรัฐฯ แข่งขันทัวร์นาเม้นต์โอลิมปิกส์ 2008 รอบคัดเลือกอีกด้วย
2007-2008
หลังจากพลาดลงเล่นเกมรอบคัดเลือกโอลิมปิกส์ เกมส์ 2008 ให้กับทีมบาสเกตบอลสหรัฐฯ ตลอดช่วงซัมเมอร์ ในที่สุด เหว็ดก็หายเจ็บไหล่และเข่าซ้าย กลับมาลงเล่นให้กับ ฮีท ได้อีกครั้ง ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2007 ก่อนที่เขาจะถูกเลือกให้ติดทีม All-Star Game เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีสถิติคะแนนได้ 24.6 แต้ม 6.9 แอสซิส 4.2 รีบาวน์ และ 1.7 สตีล ต่อเกมในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ดี ผลงานโดยรวมของ ฮีทก็ถือว่าไม่ดีนัก และ เหว็ด ก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บที่เข่ารบกวนอยู่บ่อยครั้ง
ตำแหน่งการเล่น
เหว็ด เล่นในตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด แต่เขาก็สามารถเล่นในตำแหน่ง พอนต์ การ์ด ได้เช่นกัน ในเกมรุก เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความเร็วและยากที่จะป้องกันมากที่สุดในเอ็นบีเอ นอกจากนี้ เขายังแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ไม่เห็นแก่ตัวอีกด้วย โดยเขามีเปอร์เซ็นต์การแอสซิสเฉลี่ย 6.4 ครั้งต่อเกม ตลอดอาชีพนักยัดห่วง และหลังจาก เหว็ด ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำเกมนัดชิงชนะเลิศ ปี 2006 เขาก็พัฒนาฝีมือการเล่นจนเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองมากที่สุดในวงการเอ็นบีเอ
เดวิด ธอร์ป เทรนเนอร์ ซึ่งทำงานให้กับศูนย์การฝึกซ้อมของผู้เล่นเอ็นบีเอ ช่วงปิดฤดูกาล กล่าวชื่อชมพัฒนาการของ เหว็ด ว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่ง สามารถเคลื่อนไหว และมีจังหวะการกระโดดชู้ตได้ดี นอกจากนี้ เขายังมีทีเด็ดอยู่ที่การเลย์-อัพที่เขาสามารถเบียดชนกับคู่ต่อสู้ที่ใหญ่กว่าขณะอยู่กลางอากาศได้ดี อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ เหว็ด คือ ความความพยายามในการชู้ต 3 คะแนน ที่ยังมีสถิติที่น้อยอยู่ เฉลี่ยที่ 0.251 เกมตลอดอาชีพของเขาที่ผ่านมา
รางวัลที่ได้รับ
แชมป์เอ็นบีเอ กับทีมไมอามี ฮีท: ปี 2006
รางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล: ปี 2006
ได้รับเลือกเล่นในเกมออลสตาร์: ปี 2005, 2006, 2007,2008
ได้รับเลือกอยู่่ในทีมรวมออลสตาร์: ทีมที่ 2 (2005,2006), ทีมที่ 3 (2007)
ทีมรวมเกมรับ: ทีมที่ 2 (2005)
ได้รับเลือกอยู่ในทีมดาวรุ่งของเอ็นบีเอ: 2004
ได้รับเลือกอยู่ในทีมรวมออลสตาร์สกิลชาลเล้นจ์ แชมเปี้ยน: 2006, 2007
เหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ปี 2004
เหรียญทองแดงในฟีบาเวิร์ลแชมเปียนชิพ กับทีมชาติสหรัฐ ปี 2006
คว้าแชมป์ออลสตาร์สกิลชาลเล้นจ์ แชมเปี้ยน
ที่มา http://www.sport-idol.com
Post a Comment