Header Ads

''คดีดัง'' วงการกำปั้น ''เสพยา-ค้ายา''

''คดีดัง'' วงการกำปั้น ''เสพยา-ค้ายา''


หลุมดำชีวิต ''นักมวย''

เกิดเป็น คดีดัง ขึ้นอีกครั้งแล้ว สำหรับเรื่องราวชีวิตของ นักมวย ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายอย่าง ยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า หรือล่าสุดเป็น ยาไอซ์
บ้างเสพ-บ้างขน-บ้างค้า...มีคดีเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะ...
ชีวิตนักมวย ไฉนติดบ่วงยาเสพติดรายแล้วรายเล่า ??
ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักกีฬาวงการกำปั้นในเมืองไทยตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดแล้วจำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นนักมวยไทย แต่นักมวยสากลก็มีเช่นกัน...อย่างเช่นรายล่าสุด ซึ่งหลายรายเป็นหรือเคยเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียง ค่าตัวเรือนแสน หรือหลายแสน เมื่อต้องคดียาเสพติดจึงเป็นข่าวดัง และสร้างความฉงนให้กับผู้คน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักมวย ''เสพยา-ค้ายา''
ชื่อเสียงเรียงนามของนักมวยที่ต้องคดียาเสพติดนั้น ทาง สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ขอไม่นำมาแจกแจง เพราะอาจจะเป็นการซ้ำเติมชีวิตอดีตนักสู้บนสังเวียนผ้าใบกลุ่มนี้ แต่ก็สามารถจะยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้จากข่าวการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยรายล่าสุดนั้นถูกจับกุมคดี ยาไอซ์ โดยตำรวจ จ.ชลบุรี
ส่วนคดีก่อนหน้านี้ ก็เช่น... นักมวยรุ่นเล็กพิกัดน้ำหนัก 112-118 ปอนด์รายหนึ่ง ที่เคยรุ่งโรจน์ช่วงปี 2537-2538 ถูกจับในคดีค้า ยาบ้า, อดีตยอดมวยไทยเงินแสน เคยครองแชมป์มวยไทย รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวต เวทีราชดำเนิน เคยเป็นแชมป์มวยสากล สมาคมมวยแห่งทวีปเอเชีย (พาบา) ถูกตำรวจ สน.สุทธิสาร จับกุมคดี ยาบ้า 130 เม็ด ในปี 2542 ติดคุก 2 ปี 6 เดือน พ้นโทษในปี 2545 ภายหลังก็ ถูกจับคดียาบ้าซ้ำอีก
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักมวย ''เสพยา-ค้ายา''
อดีตนักมวยชื่อดังในภาคอีสานและเคยเข้าสังกัดดังในกรุงเทพฯ ด้วยรายหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จับกุมในข้อหามี ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย, อดีตนักมวยไทยค่าตัวเรือนแสน เคยเป็นแชมป์ทั้งเวทีลุมพินีและราชดำเนิน แชมป์มวยรอบหลายรายการ แชมป์โลกมวยไทยของสภามวยไทยโลก เป็นอดีตนักมวยไทยยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย ในปี 2544 ซึ่งมีค่ายมวยไทยที่โคราชด้วย รายนี้ก็เสพ ยาบ้า ต่อมาริเป็นผู้ค้าด้วย และถูกจับในที่สุด
อดีตนักมวยดังสนามมวยลุมพินีและสนามมวยอ้อมน้อยรายหนึ่ง ถูกตำรวจ จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 26 เม็ด และ กัญชา อีก 1 แท่ง รายนี้เจ้าตัวให้การว่าเลิกชกมวยเพราะขี้เกียจฝึกซ้อม และหันมาค้ายาเสพติด, เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว อีกหนึ่งอดีตแชมป์มวยไทยหลายรายการถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จับกุมในคดีมี ยาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตำรวจสืบทราบว่าทำมานานแล้ว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักมวย ''เสพยา-ค้ายา''
หลายรายต่าง มีชื่อเสียง หรือ สังกัดค่ายดัง
หากจะตั้งข้อสังเกตว่า... เป็นหรือเคยเป็นนักมวยดัง-ค่าตัวสูง เหตุใดจึงหันหายาเสพติด ? ข้อสังเกตนี้ก็ต้องคนวงการหมัดมวยจึงจะแจงให้เห็นภาพได้ ซึ่งก็เคยมีบางท่านให้ข้อมูลผ่าน สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ไว้.....
สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ หรือ ชาติซ้าย คนดังวงการหมัดมวย เคยระบุไว้เมื่อตอนนักมวยดังที่เพิ่งถูกจับยาไอซ์ล่าสุด ถ่ายนู้ด จนเป็นข่าวครึกโครม ซึ่งถึงวันนี้ข้อมูลก็ยังไม่ล้าสมัย สรุปได้ว่า... ต้องพูดกันตรง ๆ ว่าวงการมวยมีปัญหาเยอะ ไล่ตั้งแต่หัวหน้าคณะ นักมวย โปรโมเตอร์ แต่ส่วนใหญ่ปัญหาจะตกอยู่กับนักมวย ซึ่งหลัก ๆ ก็เป็นปัญหาเรื่องความไม่เป็นธรรมของ ค่าตัว เรื่อง รายได้ เรื่องที่บีบหัวใจมานาน
หากเป็นนักมวยระดับค่าตัวเรือนแสนก็อาจจะมีปากเสียงท้วงติงได้บ้างนิดหน่อย เพราะมีประโยชน์จากความเป็นนักชกแม่เหล็กที่ดึงคนดู-ดึงสปอนเซอร์ได้ แต่หากโนเนมหรือแค่พอจะมีชื่อ...ก็ลืมไปได้เลย
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมามีคำว่า ระบบอุปถัมภ์ ที่ยึดคำว่า บุญคุณ มาเป็นหลัก ทำให้นักมวยไม่ค่อยกล้ามีปากเสียง อย่างบางทีไฟต์หนึ่งต่อยได้ 4-5 แสน นักมวยชกแทบเป็นแทบตายได้แค่ 5 หมื่น พอท้วงไปก็ถูกตอกกลับว่าหักเป็นทุนที่ใช้ไป นักมวยน่าสงสาร เพราะโดนอัดทั้งขึ้นทั้งล่อง ขึ้นไปชกก็เจ็บตัว ชนะได้เงินลงมาจากเวทีก็ถูกหัวหน้าคณะบางคนอัดอีก มันก็หมดกำลังใจ พอต่อยดี ดังหน่อย อยากไปอยู่ค่ายอื่น ก็ถูกด่าว่า เนรคุณ
ไม่ว่าจะมวยไทยหรือมวยสากล แม้จะขึ้นชื่อว่า มวยอาชีพ แต่กลับไม่มีเงินเดือนและสวัสดิการที่ชัดเจน อาชีพนี้จึง แย่ยิ่งกว่าอาชีพขายแรงงาน เพราะแทบไม่มีหลักประกันอะไร ??
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักมวย ''เสพยา-ค้ายา''
ยิ่งมวยสากล แม้จะดูอินเตอร์ แต่ยุคนี้กลับแย่กว่ามวยไทย เพราะคนไม่นิยมดูเหมือนยุคก่อน จัดชกแต่ละครั้งเจ้าของค่าย-โปรโมเตอร์ต้องวิ่งหาสปอนเซอร์ ค่าตั๋วแทบจะเก็บไม่ได้ รายได้ของนักมวยจึงแย่ไปด้วย
ชาติซ้ายเคยระบุไว้อีกว่า... สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย เคยมีโครงการเรื่องหลักประกันรายได้นักมวย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็สนับสนุน แต่เอาเข้าจริงทางค่ายมวยกลับไม่เอาด้วย
ความที่นักมวยมักจะเรียนมาน้อย อาจจะคิดไม่ทัน มองไม่ออก เมื่อตัดสินใจทำอะไรไปแล้วก็อาจจะกลายเป็นปัญหาภายหลัง จุดนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงจุดบอดเรื่องปัญหาค่าตัวหรือรายได้นักมวย ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้ดีอย่างที่เห็น-อย่างที่หลายคนคิด ซึ่งประเภทเคยดังแล้วจมไม่ลง จนต้องหาเงินด้วยวิธีผิด ๆ ก็มี ...ผู้สันทัดกรณีคนเดิมระบุไว้เมื่อวันวาน และถึงวันนี้ก็ยังคงตรงกับข้อเท็จจริง
ที่มา http://news.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.