พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ความสำเร็จ .. ความภูมิใจ .. ฟุตซอลไทย

พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ความสำเร็จ .. ความภูมิใจ .. ฟุตซอลไทย

จบลงไปเรียบร้อยกับการแข่งขัน ฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย 2017 โดยผลอย่างที่ทราบกันคือ พีทีที ชลบุรี บลูเวฟ ตัวแทนสโมสรฟุตซอลจากประเทศไทย คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่สอง (2013, 2017) จากการเข้าชิง 3 ครั้ง โดยเป็นรองแชมป์1 สมัย (2014)

จากฟอร์มที่เห็นกันต้องยอมรับว่าโต๊ะเล็กชลบุรีทีมนี้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และเต็มเปี่ยมไปด้วยทีมเวิร์กความมั่นใจ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักเตะส่วนใหญ่ตัวหลักนั้นยกมาจากทีมชาติไทยแทบยกชุด เรียกว่าความเข้าขารู้ใจจึงแทบหายห่วง

การถล่มเอาชนะคู่แข่งแบบกระจุยกระจายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงนัดชิงด้วยประตูบวก 27 ประตู และเสียเพียง 4 ประตู ย่อมเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพทีมฉลามพลังเพลิงชุดนี้ได้เป็นอย่างดี

แต่อาจจะมีลุ้นบ้างแบบชนิดน้ำลายเหนียวคอ นั่งกันไม่ติดก็คงจะเป็นนัดชิง เจอ กิติ ปาซานด์ ทีมแกร่งจากอิหร่าน เพราะตอนแรกจากที่คิดว่าชิลด์ จากที่ ชลบุรี นำในครึ่งแรก 2-0 ก่อนจะมาโดนตีเสมอ 2-2 ในช่วงต้นครึ่งหลังในระยะเวลาห่างกันไม่นาน ตอนนั้นยอมรับเลยว่ารู้สึกเสียวแทนจริงๆ แม้ชลบุรี จะเคยเอาชนะจุดโทษกิติ ปาซานด์ มาได้ในนัดชิงรายการนี้ซึ่งเป็นแชมป์สมัยแรกเมื่อปี 2012

แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าอิหร่านทีมนี้ คงหวังมาแก้ตัวเต็มที่ก็น่าจะประมาทไม่ได้รวมถึงโมเมนตัมเกม ก็เหมือนจะเทไปทาง กิติ ปาซานด์ แล้วด้วย แต่ไม่กี่อึดใจทุกอย่างกดูคลี่คลายลงทันตา เมื่อ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มาตะบันแฮตทริกในเกมนี้ของตัวเอง เป็นประตูชัยให้ทีมชนะในที่สุด ซึ่งจากที่ดูเกม ก็ต้องชื่นชมในความนิ่ง และทักษะของ ศุภวุฒิ ที่ต้องบอกว่าเหนือชั้นกับจังหวะปั่นโค้งๆ ส่งบอลเสียบเสาเข้าไปอย่างสวย

หากจะมีตำแหน่งพ่อมดฟุตซอลคนใหม่นับจากฉายานี้ ห่างหายไปนานตั้งแต่ อนุชา มั่นเจริญ อดีตฟุตซอลทีมชาติไทยระดับตำนาน สำหรับผมมองว่า ศุภวุฒิ ก็น่าจะเหมาะกับตำแหน่งนี้มากทีเดียว

ไม่เพียงเท่านั้น ทัวร์นาเมนต์นี้ ยังจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตซอลไทยได้ภาคภูมิใจสะท้านเอเชียด้วยผลงานถล่ม 7 ประตูรายการนี้ของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ดาวยิงตัวเก่งดีกรีฟุตซอลทีมชาติไทยและ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี

จนแซงนำขึ้นรั้งดาวซัลโวตลอดกาลฟุตซอลสโมสรเอเชีย 37 ประตู โดยทำลายสถิติเดิม 35 ประตูของ วาฮิด ซามซาอี อดีตนักฟุตซอลอิหร่าน ปัจจุบันเลิกเล่นไปแล้วเรียบร้อย

รวมถึงการคว้าดาซัลโวของ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร หลังสวมบทเครื่องจักรสังหารเจาะตาข่ายไป 9 ประตู ตลอดทัวร์นาเมนต์

พร้อมกับที่ รูดิมาร์ เวนันซิโอ้ "ซาป้า" นักฟุตซอลบราซิล ของทีมยังเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ฟุตซอลสโมสรเอเชีย สูงสุด 3 สมัย (กิติ ปาซานด์ 2012 และ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 2013, 2017) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จดังกล่าว คงไม่มช่ดชคช่ย แต่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจ วางแผน ฝึกซ้อมซึ่งผมก็ขอชื่นชม นักเตะ ทีมงาน ทีมผู้บริหาร สต๊าฟฟ์โค้ชทุกคนที่มอบความสุข ความสำเร็จมาฝากแฟนฟุตบอลชาวไทย และ สร้างชื่อกระหึ่มให้กับวงการฟุตซอลไทย ได้รู้จักมากขึ้นในระดับเอเชีย ..ยอดเยี่ยมครับ