Header Ads

กันยายน" เดือนตัดสินแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก 2017

กันยายน" เดือนตัดสินแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก 2017


เหลือเพียง 9 นัดก็จะได้บทสรุปแล้วว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก 2017 ตอนนี้เหลือการแข่งขันของม้า 3 ตัวเท่านั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง, แบงค็อก ยูไนเต็ด

    ตลอดเดือนสิงหาคม โปรแกรมไทยลีกจะหยุดพักให้กับทีมชาติ และจะกลับเตะอีก 4 นัดในเดือนกันยายน ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะเพิ่มความชัดเจนในการลุ้นแชมป์มากขึ้น 

    วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน   (นัดที่ 26) 
    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  พบ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

    ปราสาทสายฟ้า ต้องเจอกับคู่แข่งที่สูสี ถ้าสะดุดแพ้หรือเสมอ อาจทำให้ช่องว่างลดลงเหลือแค่ 3-4 แต้ม อดีตกุนซือเก่าอย่าง อเล็กซานเดร กาม่า น่าจะเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นไม่มีทางเลือก เล่นในบ้านต้อง 3 แต้ม แต่ถ้าจะมีสักทีมในโปรแกรมที่เหลือที่พอจะหยุดบุรีรัมย์ได้ เชียงรายก็ถือว่ามีลุ้นมากที่สุดทีมหนึ่ง

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 
    ในสองฤดูกาลหลังสุด เมืองทอง ชนะ ราชบุรี ในเอสซีจี สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 3-0 ทั้งสองซีซั่น ดังนั้นเมื่อสถิติเป็นต่อแบบนี้ โอกาสเก็บสามแต้มก็ถือว่าเป็นไปได้สูง
    
พัทยา ยูไนเต็ด พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด 
    6 เกมหลังสุด พัทยามีสถิติ ชนะ 5 เสมอ 1 เป็นทีมที่ฟอร์มดีสุดยอด แต่การมาเจอกับแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ชนะมา 8 นัดติดต่อกัน ก็น่าจะทำให้เกมนี้ เป็นนัดที่สนุกมาก จริงอยู่แบงค็อกเป็นต่อ แต่การไปเยือนพัทยาไม่ใช่งานง่าย เกมนี้อาจมีเซอร์ไพรส์ได้ 


    วันเสาร์ที่ 16 และ อาทิตย์ 17 กันยายน (นัดที่ 27)
    ศรีสะเกษ เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
    "กูปรีอันตราย" แข็งแกร่งเวลาเล่นในบ้าน พวกเขาแสดงให้เห็นมาแล้ว ในเกมเจอเมืองทอง ในสถานการณ์ที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น คงเป็นงานหนักของ บุรีรัมย์ ในการบุกมาเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ แม้สภาพทีมโดยรวมจะได้เปรียบเยอะก็ตาม 
   
 แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 
    เกมช้างเอฟเอคัพ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมน่าจะแสดงให้เห็นแล้วว่าลูกทีมของ มิลอส โจซิค พ่ายเจ้าถิ่นอย่างหมดรูป นัดนี้คงไม่มีปัญหาสำหรับ แบงค็อก ยูไนเต็ด

 สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
 
    เอสซีจี เมืองทอง ไม่แพ้ สุพรรณบุรี 4 นัดติดต่อกันแล้ว อีกทั้งเจ้าถิ่นฟอร์มไม่ดีในช่วง 5 นัดหลังสุด ชนะแค่นัดเดียวเท่านั้น แถมเกมในบ้านนัดล่าสุดแพ้พัทยายับ 0-3 ดังนั้น ถ้าเมืองทอง เล่นได้ตามฟอร์มก็มีโอกาสชนะเช่นกัน 



    วันพุธที่ 20 กันยายน 2560 
  
  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี
    งานยากของ บุรีรัมย์ อีกครั้ง แต่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลใน ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม น่าจะผ่านไปได้สำหรับลูกทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช อีกทั้งบีจี ช่วงหลังเกมเยือนไม่ดีเอาซะเลย แพ้แบงค็อก แพ้ราชบุรี เสมอศรีสะเกษ ดังนั้น เกมนี้ยากที่จะมีแต้ม
   
 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด 
    นี่เป็นเกมที่อาจเป็นบทสรุปของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ ถ้าทีมไหนชนะ ก็จะมีแรงเดินหน้าไปสู้กับบุรีรัมย์ต่อ แต่หากใครแพ้ เกมโอเวอร์ การเจอกันในซีซั่นนี้ ที่บ้านแบงค็อก เมืองทองบุกชนะ 4-2 แต่ถ้าย้อนกลับไปในซีซั่นที่แล้วที่เอสซีจี สเตเดี้ยม แบงค็อกบุกมาเอาชนะได้ถึงถิ่น ดังนั้น ทั้งสองทีมมีโอกาสใกล้เคียงกัน และน่าจะแลกกันเต็มสูบด้วย เพราะผลเสมอ ไม่ดีกับใครเลย 

    วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2560
    
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 
    ราชบุรี เป็นทีมเดียวในลีก ที่บุกชนะได้ถึงไอโมบาย สเตเดี้ยม ฤดูกาลนี้ และการกลับมาเล่นที่มิตรผล สเตเดี้ยม เป็นงานหินของทุกทีม ดังนั้น นี่จะเป็นโปรแกรมที่โหดที่สุดของบุรีรัมย์ในเดือนกันยายน 
    
แบงค๊อก ยูไนเต็ด พบกับ ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ 
    เกมนี้ ไม่มีปัญหาแน่นอน แบงค็อก คือทีมเกมรุกอันดับหนึ่งในลีก ส่วน เดอะ พาวเวอร์ เสียกระจุยทุกนัด เกมนี้บียูชนะแน่ คำถามคือกี่ลูกแค่นั้น 
   
 ราชนาวี เอฟซี พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 
    แม้จะโดน บีจี ถล่มเละ 6-1 ในถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ แต่ราชนาวี ยังคงมีดีในบ้าน พวกเขาเคยทำให้ เชียงราย กับ ราชบุรี น้ำตาตกมาแล้ว ฉะนั้น 'กิเลนผยอง' ก็ห้ามประมาท อย่าลืมทีเด็ดน้าฉ่วย อันตรายเสมอ 

    จากโปรแกรมแล้ว 4 นัดของบุรีรัมย์ ดูจะหนักที่สุด พวกเขาต้องไปเยือน ศรีสะเกษ และ ราชบุรี ที่แกร่งในบ้าน ส่วนเกมที่ไอโมบายสองนัด ก็เจอทั้งเชียงราย และบีจี ซึ่งเป็นกลุ่มท็อปไฟว์ในตารางคะแนน แต่ถ้า 4 เกมนี้บุรีรัมย์ผ่านได้หมด พวกเขาแชมป์แน่นอน 
    ขณะที่ เมืองทอง กับ แบงค็อก อาจจะมีงานเบากว่า แต่ทั้งคู่มีเงื่อนไขคือ ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ทั้ง 4 นัด แล้วไปลุ้นให้บุรีรัมย์สะดุดบ้าง โดยเฉพาะในเกมวันพุธที่ 20 ก.ย. ที่ทั้งสองทีมเจอกันเอง อาจเป็นตัวชี้วัดเลยว่า ทีมไหน จะได้ไปต่อในเกมการลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ 


ที่มา http://www.siamsport.co.th

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.